ขุดประวัติศาสตร์มวยโบราณ ก่อนจะมาเป็น “มวยไทย”
มวยคาดเชือก หรือ มวยโบราณ เป็นการชกมวยไทยในสมัยโบราณที่ใช้เชือกพันที่หมัดทั้ง 2 ข้างแทนการใช้นวมเหมือนมวยไทยปัจจุบัน นักมวยที่จะขึ้นชกจะพันหมัดด้วยเชือกจนแข็ง ผูกเครื่องรางของขลังตามความเชื่อของแต่ละคน ทั้งนี้ขึ้นกับการตกลงกันก่อนชก ก่อนชกกันนักมวยต้องมาซ้อมให้นายสนามดูก่อน ถ้ามีฝีมือใกล้เคียงกัน และทั้งคู่พอใจจะชกกันจึงถือว่าได้คู่ การต่อสู้จะชกกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมแพ้หรือลุกไม่ขึ้น มิฉะนั้นถือว่าเสมอกัน ซึ่งอาจจะชกกันใหม่ในคราวต่อไปถ้ายังไม่หายข้องใจ การชกมวยแบบนี้จะเน้นชั้นเชิงมากกว่าพละกำลัง ซึ่งสนามแข่งขันนั้นจะเป็นสนามหญ้าหรือลานวัด มีเชือกกั้น 1 เส้น มีกรรมการห้ามเพื่อจับผู้ล้มขึ้นมาชกใหม่ และห้ามไม่ให้ซ้ำเติมคนล้ม ในงานเผาศพผู้มีฐานะในสมัยก่อน นิยมให้มีมวยชกด้วยถึง 7 – 8 คู่
ความนิยมของมวยไทยในปัจจุบันนี้ เรียกว่าได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่หลงใหลศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยกีฬามวยถือเป็นหนึ่งในสองชนิดกีฬา ที่รัฐบาลไทยเปิดให้มีการพนันได้อย่างเสรี และยังมีผู้ให้บริการหลายค่ายที่ได้เปิดให้บริการทายผลมวยไทยลุ้นรางวัลผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันนี้ผู้สนใจสามารถเลือกรับบริการได้ โดยอาศัยเนื้อหาและอ้างอิงจาก รีวิวคาสิโนน่าเชื่อถือ ก่อนทำการตัดสินใจเป็นสมาชิกและเล่นทายผล ส่วนความนิยมของมวยคาดเชือกในอดีตนั้น เฟื่องฟูขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยพระยานนทิเสนสุเรนทรภักดี เริ่มจัดแข่งขันมวยไทยอาชีพครั้งแรกที่สนามมวยสวนกุหลาบ ต่อมาจึงเกิดสนามมวยอื่นๆอีกมากมาย เช่น สนามมวยท่าช้าง หลักเมือง สวนเจ้าเชตุ เสือป่า สวนสนุก เจ้านายสมัยนั้นโปรดการเลี้ยงนักมวยและเสาะหานักมวยฝีมือดีมาเข้าสังกัด จึงมีนักมวยจากหัวเมืองเข้ามาชกในกรุงเทพฯ มากมาย
ต่อมาเกิดการเปลี่ยนจากการคาดเชือกมาเป็นการสวมนวมแทนนั้นเพราะมีการชกกันถึงตาย ครั้งนั้น นายเจียร์ นักมวยชาวเขมรจากพระตะบองซึ่งมีชื่อเสียงในด้านคงกระพันชาตรี เคยชกคนตายมาแล้ว เข้ามาเปรียบมวยในกรุงเทพฯ พระชลัมภ์พิสัยเสนีย์จึงเสนอนายแพ เลี้ยงประเสริฐขึ้นชกด้วย การชกมีขึ้นที่สนามหลักเมืองของพระยาเทพหัสดินทร์เมื่อ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 เมื่อถึงยกที่ 3 นายแพใช้หมัดคู่หรือแม่ไม้หนุมานถวายแหวน ของสำนักบ้านท่าเสา ชกนายเจียร์จนชะงักและเข้าซ้ำจนนายเจียร์ทรุดลงกับพื้นและไม่ลุกขึ้นมาอีกเลย จนสิ้นใจขณะนำส่งโรงพยาบาล แม้ว่าในครั้งนั้น นายแพไม่มีความผิดตามกฎหมาย เพราะกฎหมายที่ใช้อยู่ในครั้งนั้นระบุว่า การตายที่เกิดขึ้นจากการชกมวยที่ต่างฝ่ายต่างสมัครใจมาชกกันเองนั้น ถือว่าไม่มีความผิด ดังที่เคยทีบัญญัติไว้ในกฎหมายตราสามดวง แต่ก็เป็นเหตุให้กระทรวงมหาดไทยเห็นว่าการชกแบบคาดเชือกรุนแรงเกินไป จึงประกาศห้ามชกมวยคาดเชือกทั่วราชอาณาจักร ให้สวมนวมตามแบบมวยสากลแทน และกลายมาเป็นมวยไทยแบบที่เราเห็นในปัจจุบันนั่นเอง